iPhone ดีจริงหรือแค่คิดไปเอง ?

สงสัยกันบ้างไหมครับ ทำไม iPhone จึงเป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ทั้งๆ ที่มีราคาที่สูง แถมยังเป็นระบบปฏิบัติการแบบปิดจึงทำให้ผู้ใช้สามารถจะปรับแต่งส่วนต่างๆ ได้น้อยมาก อีกทั้งการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของระบบอื่นๆ ก็ยังเชื่อมต่อกันได้ไม่สะดวกมากนัก ซึ่งก็เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ สำหรับผู้ที่จะเลือกซื้อสมาร์ตโฟนสักเครื่องมาใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา สำหรับบทความนี้จะเป็นการพูดถึง iPhone ในภาพรวม ไม่กำหนดที่รุ่นใด ไม่มีการเปรียบเทียบ และพูดในเรื่องของ Engine และ System เป็นหลัก

โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่ถือว่าจำเป็นสำหรับคนในยุคปัจจุบัน จำเป็นขนาดว่าลืมมันไม่ได้ เพราะจะไปไหนมาไหนลำบากในยุคนี้กันเลยทีเดียว และการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดพฤติกรรมแบบนี้ขึ้นก็คือการเกิดขึ้นของ Smart Phone นั้น โดย Smart Phone เครื่องที่ถือว่าเป็นการพลิกโฉมหน้าของประวัติศาสตร์และนวัตกรรมก็คือ iPhone โดย iPhone รุ่นแรกนั้นได้ถูกเปิดตัวขึ้นในเดือน มกราคม ปี ค.ศ.2007 โดยบริษัท Apple ซึ่งเป็นการกำเนิดรูปแบบที่เรียกว่า Universal Design ซึ่งผู้ผลิตหลายแบรนด์นำมาใช้ต่อ นอกจากนั้น iPhone มีความสามารถที่โดดเด่นอยู่หลายอย่างด้วยกันครับ บทความนี้จะขอเน้นถึงในเรื่องระบบปฏิบัติการของ iPhone ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการ iOS นั่นเอง โดยจะขอยกตัวอย่างออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

การทำงานร่วมกันระหว่างตัวฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ เนื่องจากทาง Apple เป็นผู้พัฒนาทั้งตัวเครื่องและระบบปฏิบัติการทั้งหมดด้วยตัวเอง ทำให้สามารถควบคุมและปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์

การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหล เพราะว่าแอปพลิเคชั่นต่างๆ นั้น ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ทำงานสอดคล้องกับ iOS โดยเฉพาะ จึงไม่ค่อยจะพบปัญหาเรื่องเครื่องค้าง หรือเครื่องกระตุกสักเท่าไหร่

จุดสำคัญอีกอย่างที่ทำได้โดดเด่นเลย คือ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ทำให้ระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ อย่างเข้มงวดมาก แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าบางส่วนให้ระบบนั้นลดความเข้มงวดลงได้บ้าง เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

อายุการใช้งานที่ยาวนานในส่วนของ Software เพราะว่า iPhone จะปล่อยการอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี จึงทำให้ผู้ใช้งาน iPhone สักเครื่องหนึ่ง สามารถอัปเดต iOS หรือ Software ต่างๆ ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เราได้ใช้งานความสามารถใหม่ๆ ที่มีเพิ่มเข้ามา กับระบบที่ทันสมัยและปลอดภัยอยู่เสมอ แม้ว่าจะซื้อเครื่องนี้มานานแล้วก็ตาม

ศูนย์ดาวน์โหลดแอป AppStore ที่คัดกรองทุกๆ แอป อย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าแอปพลิเคชั่น ที่อยู่บน AppStore มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยจริงๆ ก่อนที่จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ดาวน์โหลดกัน ซึ่งก็เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานได้ไม่น้อยเลย

การซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ iPhone และระบบ iOS นั้น สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่าง เช่น การใช้งานแอพอย่าง iMessage สำหรับส่งข้อความ รูปภาพ เสียง และลูกเล่นต่างๆ ได้ฟรีบนอุปกรณ์ Apple หรือการใช้ AirDrop ในการส่งไฟล์ความเร็วสูงระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple และการซิงค์ข้อมูลต่างๆ ผ่าน iCloud ไปที่อุปกรณ์อื่นๆ อย่างปลอดภัย ซึ่งในความสามารถของ iCloud นี้ก็จะเชื่อมโยงมายังจุดแข็งใหญ่ๆ อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการทำงานร่วมกันระหว่างแต่ละอุปกรณ์ของ Apple ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะไร้รอยต่อ ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายรูปหรือแก้ไขรูปภาพ หรือการทำงานเอกสารจากอุปกรณ์หนึ่ง ก็จะถูกเพิ่มหรือแก้ไขบนทุกอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลดแต่อย่างใด หรือการที่เรา Copy ข้อความบทความต่างๆ บนอุปกรณ์หนึ่ง สามารถนำไปกด Paste บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้งานอยู่ได้ทันที และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างการทำงานร่วมกันที่ราบรื่นของ Hardware และ Software ที่พัฒนามาร่วมกันนั่นเอง

จากที่ได้กล่าวถึงข้อเสียต่างๆ ในตอนต้นแล้ว โดยภาพรวมแล้วนี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่แสดงถึงจุดเด่นอื่นๆ ของ iPhone ซึ่งแน่นอนว่าจากบทความที่สรุปมานี้ ไม่ได้เจาะจงถึงรุ่นใดเป็นพิเศษ เพียงแต่เป็นความสามารถพื้นฐานที่มีใน iPhone และอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ iOS ทุกๆ รุ่นนั่นเอง สุดท้ายนี้ ไม่ว่าผู้อ่านจะมีชื่นชอบสมาร์ตโฟนยี่ห้อไหน หรือมีรุ่นไหนอยู่ในใจอยู่แล้ว ควรพิจารณาจากการใช้งานของเราเป็นหลัก ว่ารุ่นไหนที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับจุดประสงค์ในการใช้งานของเรานั่นเอง โดยผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่กำลังสนใจได้ไม่มากก็น้อย ขอให้ทุกคนได้สมาร์ตโฟนที่ถูกใจ และตรงตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุดครับ